พ่อร้อง DSI ลูกชายถูก แก๊งลูกตำรวจ ทำร้ายจนเสียชีวิต หลังเคยแจ้งความกับ ตร. 2 ปี คดีไม่คืบ ไปฟ้องศาลแพ่งเอง จนชนะคดี
วันที่ 22 ม.ค. 2567 กัน จอมพลัง ได้พาพ่อของเยาวชนชายวัย 16 ปี ที่เคยไปร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจ สภ.อรัญประเทศ หลังที่ลูกชายถูกเยาวชนกลุ่มเดียวกับผู้ต้องหาคดี ป้าบัวผัน ทำร้ายจนเสียชีวิต ไปร้องขอความเป็นธรรมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อขอให้ช่วยสืบสวนคลี่คลายข้อเท็จจริง เนื่องจากเรื่องคดีไม่คืบหน้ามานานกว่า 2 ปีแล้ว สำนวนคดีไปไม่ถึงอัยการ ทั้งที่คดีแพ่ง ศาลพิพากษาแล้ว
โดยพ่อของเยาวชน เล่าว่า ที่ผ่านมาตำรวจ สภ.อรัญประเทศ บอกว่า พบตัวผู้ก่อเหตุแค่ 3 คน แต่ตนได้เห็นพยานหลักฐานแล้ว ยืนยันว่ามีมากกว่านั้น เพราะเห็นรถจักรยานยนต์ที่เข้ามาจุดเกิดเหตุประมาณ 10 คัน อีกทั้งคดีนี้ผ่านมานานกว่า 2 ปี แล้ว ความคืบหน้าคดีกลับไม่ไปถึงไหน ไม่มีการนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องอัยการ
เปรียบเทียบกับคดีทางแพ่งของตน ที่ได้ให้ทนายความส่วนตัวฟ้องร้องผ่านศาลแพ่ง ศาลยังมีคำพิพากษาให้ชดใช้เงินเรียบร้อยแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าคดีดังกล่าวอาจมีการช่วยเหลือกัน และพนักงานสอบสวนที่เคยทำคดีนี้ ก็ถูกให้ไปช่วยราชการอยู่ที่อีกสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
นอกจากนี้ พ่อของเยาวชนที่เสียชีวิต ยังบอกอีกด้วยว่า กลุ่มแก๊งดังกล่าว ไม่ได้กลัวเกรงกฎหมาย ที่ผ่านมาพยายามมารังควานตนเองอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ในงานศพของลูกชาย หรือ ที่ทำงานของตนเอง เอาประทัดมาปาเพื่อสร้างความปั่นป่วน หรือ เบิ้ลเสียงรถจักรยานยนต์ข่มขู่อยู่เรื่อย ๆ จนตนเองต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว และย้ายไปอาศัยอยู่กับญาติ
ขณะที่ กัน จอมพลัง เผยว่า ตั้งแต่ที่รับเรื่องและลงพื้นที่ไปติดตาม ก็มีตำรวจมากระซิบบอกว่า ถ้าตนเองไม่ลงมา คดีคงไม่มีความคืบหน้าเหมือนกับคดีอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ตั้งข้อสังเกตว่า จุดเกิดเหตุ และจุดที่พบศพ เป็นจุดเดียวกับที่พบศพ ป้าบัวผัน อยู่ในสระน้ำ ถูกฟันด้วยของมีคมและของแข็ง จึงอยากขอให้ DSI ช่วยรับคดีนี้ไปตรวจสอบและให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย
ขณะที่ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ ในฐานะ โฆษก DSI บอกว่า ตามกฎหมายแล้วจะมี 4 หน่วยงานที่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริง และสืบสวนสอบสวน กรณีความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ได้ โดยมี DSI เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่รับตรวจสอบเรื่องนี้ได้ ซึ่งที่ผ่านมา DSI ได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนไปลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานตั้งแต่คดีของ ลุงเปี๊ยก และ ป้าบัวผัน แล้ว ต้องรออีกระยะว่าจะรับเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ส่วนกรณีของผู้เสียหายที่มาร้องวันนี้ จะรับไว้ตรวจสอบและแยกเป็นอีก 1 สำนวนคดี ดำเนินการควบคู่กันไป
No comments: