คลังแจงแล้ว รับเงินเยียวยาคนละ 3,000 บ.โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นเรื่องกลุ่มเปราะบางทั้งประเทศรับเงินเยียวยาคนละ 3,000 บาท โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
เนื่องจากกรณีการแชร์ข่าวสารที่ระบุว่าแจ้งข่าวดี! กลุ่มเปราะบางทั้งประเทศรับเงินเยียวยา 3,000 บาท ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ ทางปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบปัญหาทางสังคมและกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์รายละไม่เกิน 3,000 บาท ซึ่งไม่ใช่เงินเยียวยา โดยเบิกจ่ายตามระเบียบและประกาศของกระทรวง พม. ประกอบด้วย
1.การสงเคราะห์เด็กภายในครอบครัว
2.การสงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ในประเทศให้กลับภูมิลำเนาเดิม
3.การจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน
4.การสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง
5.เงินอุดหนุนเงินสงเคราะห์และฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ
6.การช่วยเหลือ สตรีหรือครอบครัวที่ประสบปัญหาทางสังคม
7.การคุ้มครอง การส่งเสริม และการสนับสนุนการจัดที่พักอาศัย อาหาร และเครื่องนุ่งห่มให้ผู้สูงอายุตามความจำเป็นอย่างทั่วถึง
8.การคุ้มครอง การส่งเสริมและการสนับสนุนการช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่งได้รับอันตรายจากการถูกทารุณกรรมหรือถูกแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือถูกทอดทิ้ง และการให้คำแนะนำปรึกษาดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องในทางการแก้ไขปัญหาครอบครัว และหนังสือกระทรวงการคลัง อาทิ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันโรคเอดส์ และการดำเนินงานช่วยเหลือด้านเงินทุนประกอบอาชีพแก่สตรีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเอดส์ , การเบิกค่าใช้จ่ายโครงการรณรงค์เพื่อป้องกันโรคเอดส์ และเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับตัวชาวเขา
ทั้งนี้ ประชาชนผู้ประสบปัญหาทางสังคมและกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัดในภูมิลำเนาที่อยู่อาศัย โดยจะมีการตรวจสอบและประเมินข้อเท็จจริงตามกระบวนการสังคมสงเคราะห์ว่ามีปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการช่วยเหลือเร่งด่วนอย่างไร อีกทั้งต้องมีการวิเคราะห์เป็นรายกรณีตามขั้นตอนและระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาจ่ายเงินสงเคราะห์ดังกล่าวต่อไป
No comments: